ทูตสวรรค์ (Angels)
แชร์ 723 แชร์ 726 แชร์ 552
กำเนิดทูตสวรรค์
ทูตสวรรค์เป็นสิ่งสร้าง พระเจ้าเป็นผู้สร้างทูตสวรรค์ขึ้นมา ทูตสวรรค์ถูกสร้างขึ้นมาก่อนการสร้างแผ่นดินโลกและมนุษย์ และ มีจำนวนเหลือคณานับ (ฮีบรู 12:22) โดยพระเจ้าประทานพระพรให้ทูตสวรรค์มีปรีชาญาณ อำนาจ และ ความศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่
ทูตสวรรค์มีธรรมชาติเป็นจิต มีความฉลาด มีอารมณ์ มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่มีรูปกาย ไม่มีเพศ แต่การไม่มีรูปกายไม่ได้หมายถึงว่าทูตสวรรค์ไม่มีตัวตน
ทูตสวรรค์เป็นสิ่งที่ทรงสร้างที่แตกต่างไปจากมนุษย์โดยสิ้นเชิง มนุษย์ไม่ใช่ทูตสวรรค์ และทูตสวรรค์ไม่ใช่มนุษย์ และมนุษย์เองก็ไม่ได้กลายเป็นทูตสวรรค์เมื่อเสียชีวิตลง ทูตสวรรค์จึงเป็นบุคคลที่ถูกสร้างและไม่รู้จักตาย มีความศักดิ์สิทธิ์ครบครันเหนือกว่าสิ่งสร้างทั้งหลายที่มองเห็นได้
ทูตสวรรค์มีธรรมชาติเป็นจิต มีความฉลาด มีอารมณ์ มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่มีรูปกาย ไม่มีเพศ แต่การไม่มีรูปกายไม่ได้หมายถึงว่าทูตสวรรค์ไม่มีตัวตน
ทูตสวรรค์เป็นสิ่งที่ทรงสร้างที่แตกต่างไปจากมนุษย์โดยสิ้นเชิง มนุษย์ไม่ใช่ทูตสวรรค์ และทูตสวรรค์ไม่ใช่มนุษย์ และมนุษย์เองก็ไม่ได้กลายเป็นทูตสวรรค์เมื่อเสียชีวิตลง ทูตสวรรค์จึงเป็นบุคคลที่ถูกสร้างและไม่รู้จักตาย มีความศักดิ์สิทธิ์ครบครันเหนือกว่าสิ่งสร้างทั้งหลายที่มองเห็นได้
หน้าที่ของทูตสวรรค์
คำว่า 'ทูตสวรรค์' เป็นคำบอกหน้าที่ ไม่ได้บอกถึงธรรมชาติของทูตสวรรค์ ในภาษากรีกคำว่า 'ทูตสวรรค์' แปลว่า ผู้ส่งข่าว ดังนั้นถ้าถามว่าทูตสวรรค์เป็นอะไร ? คำตอบ คือ ทูตสวรรค์เป็นจิต แต่จิตนี้ทำหน้าที่อะไร ? คำตอบ คือ ทำหน้าที่เป็นผู้ข่าวของพระเจ้า เป็นผู้รับใช้และผู้ถือสารของพระเจ้า เนื่องจากว่าบรรดาทูตสวรรค์ “เฝ้าชมพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์” (มัทธิว 18:10) “พร้อมสรรพที่จะฟังเสียงพระบัญชา” (สดุดี 103:20)
หน้าที่ของทูตสวรรค์ต่อมนุษย์
แม้ว่าทูตสวรรค์จะมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ก็ยอมต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า คือ พระเจ้าใช้ทูตสวรรค์ในการส่งข่าว ในการพิทักษ์รักษาและช่วยเหลือมนุษย์ ทูตสวรรค์จึงเป็นพยานถึงความใส่ใจของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ ในพระวรสารทูตสวรรค์ปรากฏตัวช่วงเวลาที่สำคัญของพระเยซู เช่น
หรือในหลายเหตุการณ์ของกิจการ เช่น "เวลากลางคืน ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าเปิดประตูคุก นำบรรดาอัครสาวกออกไป สั่งว่า ท่านทั้งหลายจงไปที่พระวิหาร ประกาศพระวาจาเกี่ยวกับวิถึชีวิตใหม่นี้ให้ประชาชนฟังเถิด" กิจการ 5:19
- การแจ้งสาส์นการบังเกิดของพระเยซู “ทันใดนั้นก็มีทูตสวรรค์อีกมากมายประจักษ์มาพลางร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า”
- หลังจากพระเยซูถูกผจญในถิ่นทุรกันดารแล้ว "บรรดาทูตสวรรค์ก็เข้ามามาปรนนิบัติพระองค์"
- ในเวลาเข้าตรีทูตของพระเยซูที่สวนเกทเสมนี “ทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาจากสวรรค์” เพื่อบรรเทาใจพระองค์
- เช้าตรู่วันปัสกาทูตสวรรค์สององค์ประกาศว่าพระเยซูได้กลับคืนชีพแก่สตรีใจศรัทธา
- เมื่อพระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค์ ทูตสวรรค์ก็ปรากฏมาที่นั่นอีก เพื่อให้ความมั่นใจให้แก่บรรดาอัครสาวกว่า พระองค์จะเสด็จกลับมาอีก
หรือในหลายเหตุการณ์ของกิจการ เช่น "เวลากลางคืน ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าเปิดประตูคุก นำบรรดาอัครสาวกออกไป สั่งว่า ท่านทั้งหลายจงไปที่พระวิหาร ประกาศพระวาจาเกี่ยวกับวิถึชีวิตใหม่นี้ให้ประชาชนฟังเถิด" กิจการ 5:19
เหตุที่ทูตสวรรค์ช่วยเหลือมนุษย์ได้
แม้ว่าความรอบรู้ของทูตสวรรค์มีความจำกัด แต่ทูตสวรรค์มีความรอบรู้มากกว่ามนุษย์ เพราะทูตสวรรค์ถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ในระดับสูงกว่ามนุษย์ ดังนั้นเหล่าทูตสวรรค์จึงมีความรู้ที่มากกว่ามนุษย์โดยปริยาย
ทูตสวรรค์จึงได้รับสติปัญญาจากการเฝ้าดูกิจกรรมของมนุษย์มาเป็นเวลานาน นับตั้งแต่การเนรมิตสร้างโลก เช่นนั้นเองทูตสวรรค์จึงไม่จำเป็นที่จะต้องศึกษาอดีตเหมือนมนุษย์ ทำให้ทูตสวรรค์จึงสามารถคาดการณ์ปฏิกิริยาของเราในสถานการณ์ชีวิตต่าง ๆ ได้แม่นยำ และช่วยเหลือนำทางมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ที่ปรากฏในเมืองโสโดม ซึ่งทูตสวรรค์ได้พาโลทและภรรยาหนีออกมาก่อนที่เมืองจะเกิดการลงทัณฑ์
ทูตสวรรค์จึงได้รับสติปัญญาจากการเฝ้าดูกิจกรรมของมนุษย์มาเป็นเวลานาน นับตั้งแต่การเนรมิตสร้างโลก เช่นนั้นเองทูตสวรรค์จึงไม่จำเป็นที่จะต้องศึกษาอดีตเหมือนมนุษย์ ทำให้ทูตสวรรค์จึงสามารถคาดการณ์ปฏิกิริยาของเราในสถานการณ์ชีวิตต่าง ๆ ได้แม่นยำ และช่วยเหลือนำทางมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ที่ปรากฏในเมืองโสโดม ซึ่งทูตสวรรค์ได้พาโลทและภรรยาหนีออกมาก่อนที่เมืองจะเกิดการลงทัณฑ์
ทุกคนจึงมีทูตสวรรค์อารักขา
"เพราะพระองค์ทรงบัญชาทูตสวรรค์ไว้แล้ว ให้พิทักษ์รักษาท่าน ไม่ว่าท่านจะไปทางไหน ทูตสวรรค์จะโอบอุ้มท่านไว้ มิให้เท้าของท่านสะดุดก้อนหิน" (สดุดี 91:11-12) ทุกคนจึงมีทูตสวรรค์ผู้อารักขาที่พระเจ้าประทานให้เป็นของตัวเอง และ สามารถปรากฏมาให้เห็นได้ในบางครั้ง ในฐานะผู้ส่งสาร หรือ ผู้ชี้แนวทางให้แก่เรา
และองค์พระเยซูคริสต์ได้ตรัสไว้ว่า “จงระวังให้ดี อย่าดูหมิ่นคนธรรมดา ๆ เหล่านี้คนใดเลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า ตลอดเวลาในสวรรค์ ทูตสวรรค์ของเขา เฝ้าชมพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ ” (มัทธิว 18:10)
และองค์พระเยซูคริสต์ได้ตรัสไว้ว่า “จงระวังให้ดี อย่าดูหมิ่นคนธรรมดา ๆ เหล่านี้คนใดเลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า ตลอดเวลาในสวรรค์ ทูตสวรรค์ของเขา เฝ้าชมพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ ” (มัทธิว 18:10)
ทูตสวรรค์ดูแลทวีปและชนชาติ
นอกจากบรรดาทูตสวรรค์จะเป็น “ เป็นผู้รับใช้และผู้ส่งข่าวของพระเจ้า ” ทูตสวรรค์จำนวนมากยังมีหน้าที่ประจำอื่น ๆ เช่น การปกป้องดูแลทวีป ประเทศชาติ หรือเมือง
นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เราทราบว่ามีทูตสวรรค์อุปถัมภ์ของชาติต่าง ๆ และนักบุญเกลเมนแห่งอาเล็กซานเดรียกล่าวว่า “ พระเจ้าทรงบัญชาให้ทูตสวรรค์แยกย้ายกันไปอยู่ตามชาติต่างๆ ”
ในพระคัมภีร์มีการกล่าวถึงเทวดาอารักขาพวกกรีกและพวกเปอร์เซีย นักบุญเปาโล กล่าวถึงทูตสวรรค์ที่อารักขามาซิโดเนีย และ อัครเทวดามีคาแอล นอกจากเป็นจอมทัพสวรรค์ ยังถือว่าเป็นผู้อารักขาประชากรอิสราแอลด้วย
พระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ตรัสเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1986 ว่า “เราพอที่จะยืนยันได้ว่าหน้าที่ของบรรดาทูตสวรรค์เป็นเสมือนทูตของพระเจ้าทรงชีวิตที่สัมพันธ์ไม่เฉพาะกับแต่ละบุคคลหรือกับบุคคลที่ได้รับการเลือกสรรเท่านั้น แต่กับคนทั้งชาติด้วย”
นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เราทราบว่ามีทูตสวรรค์อุปถัมภ์ของชาติต่าง ๆ และนักบุญเกลเมนแห่งอาเล็กซานเดรียกล่าวว่า “ พระเจ้าทรงบัญชาให้ทูตสวรรค์แยกย้ายกันไปอยู่ตามชาติต่างๆ ”
ในพระคัมภีร์มีการกล่าวถึงเทวดาอารักขาพวกกรีกและพวกเปอร์เซีย นักบุญเปาโล กล่าวถึงทูตสวรรค์ที่อารักขามาซิโดเนีย และ อัครเทวดามีคาแอล นอกจากเป็นจอมทัพสวรรค์ ยังถือว่าเป็นผู้อารักขาประชากรอิสราแอลด้วย
พระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ตรัสเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1986 ว่า “เราพอที่จะยืนยันได้ว่าหน้าที่ของบรรดาทูตสวรรค์เป็นเสมือนทูตของพระเจ้าทรงชีวิตที่สัมพันธ์ไม่เฉพาะกับแต่ละบุคคลหรือกับบุคคลที่ได้รับการเลือกสรรเท่านั้น แต่กับคนทั้งชาติด้วย”
การปรากฏตัวของทูตสวรค์ในประวัติศาสตร์
มีบันทึกทางประวัติศาสตร์เขียนเอาไว้ว่า "ในศตวรรษที่ 5 มีเหตุการณ์ที่อัตตีลา (กษัตริย์ชาวฮั่น) นำทัพชาวฮั่นบุกตีทั่วยุโรปจนมาถึงกรุงโรม แต่ก็กลับถอยทัพไปเฉย ๆ หลังจากที่อัตตีลาได้พบกับพระสันตะปาปาเลโอ (ปัจจุบันได้รับการประกาศเป็นนักบุญแล้ว)
ในตอนที่พระสันตะปาปาเลโอเสด็จออกจากกรุงโรม และได้ไปพบกับอัตตีลา ทูตสวรรค์ก็ได้ปรากฏมาอย่างยิ่งใหญ่ อยู่เบื้องหลังของพระสันตะปาปา เมื่ออัตตีลาเห็นดังนั้น ก็มีความเกรงกลัวต่อปรากฏการณ์นี้มากจนถึงกับได้สั่งให้ถอยทัพกลับจากสถานที่แห่งนั้นทันที และ กรุงโรมได้รอดพ้นจากโศกนาฏกรรมที่น่าสะพรึงกลัวนั้น และเป็นความจริงที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์โลก"
โกร์รี เทน บูม ได้เขียนหนังสือ “ บัญชาให้เดินหน้าเพื่อให้สงครามสิ้นสุดลง ” มีใจความท่อนหนึ่งว่า ในช่วงกลางศตวรรษที่ยี่สิบ ที่ประเทศประเทศซาอีร์ (ตั้งอยู่ตอนกลางของแอฟริกาตะวันตก) เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น และพวกกบฏต้องการยึดโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของพวกธรรมทูต (มิชชันนารี) โดยกลุ่มกบฏวางแผนฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นั่น ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
แต่พวกกบฏก็ไม่กล้าบุกเข้าไปในเขตโรงเรียนนั้น โดยกบฏคนหนึ่งได้เล่าให้เขาในภายหลังว่า "พวกเราเห็นทหารสวมเครื่องแบบสีขาวจำนวนร้อย ๆ อยู่ในบริเวณนั้น พวกเราจึงได้ยกเลิก" ทุกคนที่รอดชีวิตเชื่อว่า บรรดาทูตสวรรค์ได้ช่วยให้พวกเด็ก ๆ และธรรมทูตรอดพ้นจากความตาย
ในตอนที่พระสันตะปาปาเลโอเสด็จออกจากกรุงโรม และได้ไปพบกับอัตตีลา ทูตสวรรค์ก็ได้ปรากฏมาอย่างยิ่งใหญ่ อยู่เบื้องหลังของพระสันตะปาปา เมื่ออัตตีลาเห็นดังนั้น ก็มีความเกรงกลัวต่อปรากฏการณ์นี้มากจนถึงกับได้สั่งให้ถอยทัพกลับจากสถานที่แห่งนั้นทันที และ กรุงโรมได้รอดพ้นจากโศกนาฏกรรมที่น่าสะพรึงกลัวนั้น และเป็นความจริงที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์โลก"
โกร์รี เทน บูม ได้เขียนหนังสือ “ บัญชาให้เดินหน้าเพื่อให้สงครามสิ้นสุดลง ” มีใจความท่อนหนึ่งว่า ในช่วงกลางศตวรรษที่ยี่สิบ ที่ประเทศประเทศซาอีร์ (ตั้งอยู่ตอนกลางของแอฟริกาตะวันตก) เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น และพวกกบฏต้องการยึดโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของพวกธรรมทูต (มิชชันนารี) โดยกลุ่มกบฏวางแผนฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นั่น ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
แต่พวกกบฏก็ไม่กล้าบุกเข้าไปในเขตโรงเรียนนั้น โดยกบฏคนหนึ่งได้เล่าให้เขาในภายหลังว่า "พวกเราเห็นทหารสวมเครื่องแบบสีขาวจำนวนร้อย ๆ อยู่ในบริเวณนั้น พวกเราจึงได้ยกเลิก" ทุกคนที่รอดชีวิตเชื่อว่า บรรดาทูตสวรรค์ได้ช่วยให้พวกเด็ก ๆ และธรรมทูตรอดพ้นจากความตาย
เหตุที่ทูตสวรรค์มีทั้งดีและไม่ดี
เพราะพระเจ้าสร้างทูตสวรรค์ให้เป็นจิตที่มีอำเภอใจของตัวเอง หากจิตใดมีความดีงาม ก็จะมีความงดงาม แต่จิตใดเลือกเปลี่ยนเป็นจิตชั่วร้าย (ตามอำเภอใจ) จิตนั้นก็จะมีความสกปรกน่าเกลียดกลายเป็นปีศาจได้ และ ไม่อาจอยู่ในสวรรค์ของพระเจ้าได้ เพราะทูตสวรรค์
เป็นจิตล้วน ๆ ไม่ได้มีกายเนื้อคอยบดบังจิตใจข้างในแบบมนุษย์ การที่มีจิตชั่วช้า แล้วต้องการปิดบังให้ภายนอกดูสวยงามจึงเป็นไปไม่ได้ จึงไม่มีปีศาจใจดี หรือ ทูตสวรรค์ใจชั่ว
ดังนั้นปีศาจ ก็คือ ทูตสวรรค์ที่ทำการกบฎขัดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าและได้ตกสวรรค์ แปดเปื้อนความชั่วร้ายจนกลายเป็น “ปีศาจ” ไป หากปีศาจ หรือ จิตชั่วร้ายกลับใจใหม่หาแสงสว่างเปลี่ยนเป็นจิตที่ดีก็จะกลับเป็นทูตสวรรค์ไม่ใช่ปีศาจ
ดังนั้นปีศาจ ก็คือ ทูตสวรรค์ที่ทำการกบฎขัดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าและได้ตกสวรรค์ แปดเปื้อนความชั่วร้ายจนกลายเป็น “ปีศาจ” ไป หากปีศาจ หรือ จิตชั่วร้ายกลับใจใหม่หาแสงสว่างเปลี่ยนเป็นจิตที่ดีก็จะกลับเป็นทูตสวรรค์ไม่ใช่ปีศาจ
บทสรุป
ทูตสวรรค์เป็นสิ่งสร้างของพระเจ้า ไม่มีรูปกาย มีลักษณะเป็นจิตที่มีอำเภอใจของตัวเอง ทูตสรรค์ถูกสร้างมาก่อนการสร้างโลกและมนุษย์ โดยมีหน้าที่รับใช้พระเจ้า และ พระเจ้าได้บัญชาให้ทูตสวรรค์ฝ่ายดีดูแลมนุษย์ มนุษย์แต่ละคนจึงมีทูตสวรรค์อารักขาของตัวเอง (บางคนก็มีมากกว่าหนึ่ง)